8 พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้โทรศัพท์โดนแฮกข้อมูล 

8 พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้โทรศัพท์โดนแฮกข้อมูล 

จากการจารกรรมทางออนไลน์ระบาดมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีผู้เดือดร้อนเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยความเสียหายที่เกิดขึ้น ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้รับการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมและได้ผล ทำให้เราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการสมาร์ทโฟนให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่รู้ไหมว่า การโจรกรรมข้อมูลในมือถือส่วนใหญ่มีความเกี่ยวเนื่องจากพฤติกรรมเสี่ยงที่มาจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนเองเช่นกัน เรามาเช็กกันหน่อยว่าพฤติกรรมใดบ้าง และจะป้องกันอย่างไรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้สมาร์ทโฟน  1. ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านบนสมาร์ทโฟนเลย  สำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟนแล้วไม่มีการตั้งรหัสผ่านล็อคเครื่องไว้ หากมือถือหล่นหาย หรือถูกขโมยไปอยู่ในมือคนอื่น มีโอกาสสูงมากที่คนอื่นสามารถรู้ข้อมูลบนสมาร์ทโฟนของคุณ ไมว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร รายชื่อผู้ติดต่อ หรือแชทการสนทนาต่าง ๆ ดังนั้น การตั้งรหัสล็อคเครื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นและควรทำเป็นสิ่งแรกเสมอเมื่อมีการเปิดมือถือเครื่องใหม่ รวมไปถึงการสร้าง pincode ในแต่ละแอปพลิเคชันที่คุณใช้บนสมาร์ทโฟน เช่น Line , facebook , googledrive , skype , onedrive แอปหาคู่  เป็นต้น  2. ใช้รหัสผ่านเดียวกันทุกแอคเคาท์  หลายคนที่มักจะตั้งรหัสผ่านเดียวกันหมดทุกแอคเคาท์ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร หรือ แอปพลิเคชัน เพราะสะดวกต่อการจดจำ แต่รู้ไหมว่าการทำเช่นนั้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเหล่ามิจฉาชีพด้วยเช่นกัน เพราะหากแฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าระบบสมาร์ทโฟนคุณได้สำเร็จ และนำรหัสไปลองกับทุกบัญชีที่คุณมีในเครื่อง ก็จะเข้าถึงและสวมรอยได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะถ้ารหัสเดียวกับทุกบริการ e-banking คุณก็จะโดนขโมยเงินทางออนไลน์ไปในพริบตา ด้วยเหตุนี้ คุณควรตั้งรหัสแต่ละบัญชีให้แตกต่างกัน อาจสร้างความยุ่งยากในการจำรหัสแต่ละบัญชีสักหน่อย ยิ่งใครมีแอคเคาท์มากเท่าไร ก็อาจยิ่งวุ่นวายมากขึ้น แต่มันปลอดภัยกว่าการตั้งรหัสเดียวกันกับทุกบัญชีแน่นอน  3.คลิกลิงก์โดยไม่ตรวจสอบ เมื่อเข้าไปอ่านข่าวสาร หาข้อมูลตามหน้าเพจหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมไปถึงการที่เพื่อน ๆ แชร์เพจข่าวบนแอป เช่น เพจบนเฟสบุค หรือข่าวในไลน์ ซึ่งมักจะเป็นหัวข้อข่าวพร้อมกับภาพที่ไม่น่าจะโพสบนสื่อได้ตามจรรยาบรรณ เช่น ภาพรุนแรง ภาพโป๊เปลือย หากเป็นการนำเสนอในลักษณะนี้ อาจเป็นไปได้ว่าเป็นเพจสร้างเรื่องข่าวปลอม หรือ fake news และมักจะมีพวกโฆษณาต่าง ๆ มาด้วย เมื่อไปกดลิงค์เหล่านั้นเพื่ออ่านบทความ อาจเสี่ยงต่อการติดไวรัส ช่วยกระจายเว็บปลอมให้กับทุกคนที่อยู่ในรายชื่อติดต่อของคุณโดยไม่รู้ตัว หรือสมาร์ทโฟนติดมัลแวร์ และถูกขโมยข้อมูลได้ เช่น การเข้าถึง cookie รายชื่อเพื่อน ภาพ วิดีโอ ข้อมูลการแชท และบัญชีธนาคารออนไลน์ โดยมีมิจฉาชีพควบคุมสมาร์ทโฟนของคุณแบบทางไกลได้สบาย ๆ ดังนั้น ก่อนคลิกลิงก์ใด ๆ โดยเฉพาะลิงก์โฆษณา...

เห็บกัดคนเป็นอันตรายไหม พร้อมบอกวิธีกำจัดเห็บด้วยตนเองอย่างถูกวิธี

เห็บกัดคนเป็นอันตรายไหม พร้อมบอกวิธีกำจัดเห็บด้วยตนเองอย่างถูกวิธี

ใครเคยโดนเห็บกัดบ้าง?   เชื่อว่ามีหลายคนที่ต้องเคยมีประสบการณ์โดนเห็บกัด หรือเห็บกัดลูก กัดคนในบ้าน กัดสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะเหล่าทาสหมา ทาสแมว และบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพราะเห็บหมัดตัวร้ายมักจะอาศัยสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานี้แหล่ะเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นแหล่งอาหารพร้อมไปในตัว หรือคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์อะไรเลยก็ตาม ก็อาจเจอเห็บกัดได้เช่นกัน เพราะเห็บอาจถูกลมพัดมาจากที่อื่น หรือบริเวณใกล้เคียงมีแมวและสุนัขจรจัด แล้วเห็บคลานมาตามพื้นและแอบบุกเข้าบ้านโดยที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะตัวมันเล็กมาก ๆ รู้ตัวอีกทีก็โดนเห็บกัดไปแล้ว ส่วนใหญ่คนที่ถูกเห็บกัดมักจะไม่มีอาการเจ็บ เนื่องจากน้ำลายของเห็บนั้นมีสารที่ก่อให้เกิดอาการชาเฉพาะที่ ทำให้ผู้ที่โดนเห็บกัดไม่รู้ตัว แต่จะรู้ได้อีกทีเมื่อเห็บกัดคันไม่หาย มีร่องรอยของเห็บกัด เป็นตุ่มแดง หรือมีไข้ในคนที่แพ้น้ำลายเห็บ  เห็บ คืออะไร  เห็บ คือ ปรสิตที่มีชีวิตอยู่ด้วยการอาศัยการดูดเลือดสัตว์และมนุษย์เป็นอาหาร มีหลายสายพันธุ์ ซึ่งบางสายพันธุ์เป็นพาหะนำโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส โดยผ่านทางน้ำลายเห็บ ก่อให้เกิดโรคอันตราย เช่น โรคไข้เห็บ (Ehrlicosis) โรคทูลาริเมีย (Tularemia) หรือ โรคลายม์ (Lyme Disease) เป็นต้น แต่โรคเหล่านี้จะไม่ค่อยพบในประเทศไทยเท่าไร  เห็บมักจะหลบซ่อนตัวตามพงหญ้า ต้นไม้ พุ่มไม้ เมื่อสัตว์หรือมนุษย์เดินผ่าน ก็จะเกาะติดไปด้วยเพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารและเป็นบ้านใหม่ของมัน โดยส่วนใหญ่ในประเทศไทย คนมักจะมีเห็บติดมาจากการสัมผัสสัตว์เลี้ยงที่มีเห็บ หรือที่บ้านมีสัตว์เลี้ยงป่วยมีเห็บแล้วเห็บร่วงหล่นลงสู่พื้นและไต่ขึ้นคนแทน โดยจะไปแอบซ่อนในร่างกายตามบริเวณที่อุ่นและชื้น เช่น รักแร้ ขาหนีบ หรือ เส้นผม เป็นต้น  เห็บมีกี่ชนิด  เห็บถูกพบทั่วโลกมากกว่า 800 สายพันธุ์ โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่  เห็บกัด อาการเป็นอย่างไร  โดยส่วนใหญ่ คนมักไม่รู้สึกตัวเมื่อถูกเห็บกัดในช่วงแรก เพราะจะไม่ปรากฏอาการเจ็บหรือคันผิวหนังเหมือนตอนถูกสัตว์ชนิดอื่น ๆ อย่างยุงหรือมดกัด อีกทั้งเห็บยังมีขนาดตัวที่เล็กมาก จึงทำให้สังเกตเห็นได้ยาก แต่โดยส่วนใหญ่คนที่ถูกเห็บกัดจะไม่รู้สึกตัวในช่วงแรก เพราะเห็บมีขนาดตัวเล็กมากจนไม่เป็นที่สังเกต และเมื่อเห็บกัดมักจะไม่มีอาการคันผิวหนังเหมือนสัตว์ชนิดอื่น ๆ กัด เช่น ยุงกัด หรือ มดกัด แต่เมื่อเห็บกัดไปได้ระยะหนึ่ง เห็บจะมีการขยายตัวขึ้นจนทำให้สามารถเห็นตัวได้ง่ายขึ้น เพราะมันจะยังคงอยู่ในบริเวณผิวหนังที่กัดและดูดเลือดกิน ไม่ได้หนีหายไปไหนเหมือนสัตว์หรือแมลงอื่น ๆ แต่ถ้าหากไม่ถูกพบเจอหรือถูกนำออกไปภายในระยะเวลา 7-10 วัน เห็บก็จะเลิกดูดเลือดและหลุดออกไปเอง  ปกติแล้วอาการแพ้เห็บหมัดมักจะเป็นเพียงเฉพาะที่ แต่ก็มีผู้ป่วยที่อาจแพ้น้ำลายเห็บ เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังถูกเห็บกัด...

5 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน แก้ภูมิแพ้ แต่งบ้านสวย

5 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน แก้ภูมิแพ้ แต่งบ้านสวย

ไม้ประดับหลายชนิด ที่นอกจากจะช่วยตกแต่งให้บ้านมีความสวยงามแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการดูดซับและกำจัดสารพิษที่ปนเปื้อนในอากาศ ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน

8 ตำแหน่งงานฮอต

8 ตำแหน่งงานฮอต ที่จะทำให้คุณเนื้อหอม หลายบริษัทต้องการตัว 

8 ตำแหน่งงานฮอต | บางอาชีพ ทำงานแบบ Work from home ได้ทำงานแถมมีเวลาอยู่กับครอบครัว 8 อาชีพที่ว่านี้มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

เล่นน้ำแล้วติดเชื้อแบคทีเรีย เกิดจากอะไร

เล่นน้ำแล้วติดเชื้อแบคทีเรีย เกิดจากอะไร

จากไวรัลยูทูปเบอร์สาวชาวญี่ปุ่นในชุดอินเดีย ได้ลงไปร่วมพิธีการชำระล้างร่างกายในแม่น้ำคงคา ณ ประเทศอินเดีย โดยเธอดได้จุ่มศีรษะลงในแม่น้ำพร้อมกับกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าอีกหลายคร้้ง ท่ามกลางชาวอินเดียคนท้องถิ่นจำนวนมาก จนกระทั่งผ่านพิธีกรรมดังกล่าวไปประมาณ 1 ชั่วโมง ยูทูบเบอร์สาวก็เกิดอาการล้มป่วยตามมา  โดยเริ่มจากมีอาการแสบจมูกอย่างรุนแรง ก่อนจะรู้สึกเจ็บคอมาก และมีไข้สูงเมื่อตกกลางคืน ทำให้คลิปวิดีโอของเธอกลายเป็นกระแสไวรัลในตอนนี้ โชคดีที่อาการป่วยของเธอทุเลาและดีขึ้นภายใน 2 วัน หลังจากได้รับการรักษาจากโรงพยาบาล และเธอก็ได้เตือนกับทุกคนว่าอย่าได้ทำเช่นเดียวกับเธอ แม้ว่าจะรู้ว่าแม่น้ำคงคานั้นไม่สะอาด ไม่ปลอดภัยต่อสุขอนามัย และเธอก็ได้เตรียมใจไว้แล้ว แต่หลังจากที่ล้มป่วยลง ทำให้เธอปณิธานเลยว่าจะไม่หาคอนเทนต์แบบนี้ทำอีกแล้ว เพราะมันได้ไม่คุ้มเสียกับการนำชีวิตไปเสี่ยง  โรคติดเชื้อที่เกิดจากน้ำเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และบางโรคนั้นอันตรายจนเสียชีวิตได้ และมักมีการแพร่ระบาดอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งทางยูนิเซฟ และองค์การอนามัยโลก WHO มีรายงานว่า ร้อยละ 88 ของผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการได้รับเชื้อโรคจากน้ำ เกิดจากการดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนหรือมีสารพิษปะปน รวมไปถึงการใช้น้ำจากแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด โดยมีรายงานว่า ส่วนใหญ่การติดเชื้อจากน้ำส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อ Naegleria fowleri ที่มีอันตรายจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้  สำหรับอาการติดเชื้อจากน้ำตามแหล่งธรรมชาติ หรือจากน้ำในที่สาธารณะ อาทิเช่น สวนน้ำ สระน้ำ ที่ไม่ระบบการรักษาและควบคุมความสะอาดให้ถูกสุขอนามัย สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ดังนี้  1. กลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร จะมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับเชื้อโรคหลากหลายตัวด้วยกัน แต่จะมีรอยโรคและอาการเดียวกัน โดยสามารถแบ่งออกตามเป็นกลุ่มเชื้อได้โดย  การรักษาเบื้องต้น : ส่วนใหญ่อาการจะหายได้เองภาย 24 ชม. หรือในประมาณ 2-5 วัน หากมีอาการอ่อนเพลียและเสียน้ำมาก ควรดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทน แต่ในผู้ป่วยในรายที่มีอาการรุนแรง ต้องได้รับยาฏิชีวนะร่วมด้วย  2. กลุ่มอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โดยอาการของโรค มีไข้สูง หนาวสั่น ไม่ไข้สูง ปัสสาวะเป็นเลือด ซึ่งอาจได้รับเชื้อในกลุ่มตระกูล Legionella spp.  3. กลุ่มติดเชื้อทางผิวหนัง จะมีอาการของโรคดังนี้  4. ติดเชื้อไวรัส Hepatitis A โดยอาการของโรค จะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ตัวเหลืองตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม  สรุป  การป้องกันสำหรับผู้ที่ลงเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ควรกลืนหรือหายใจเอาน้ำเข้าทางจมูกหรือปาก เพราะจะเป็นช่องทางที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเราได้อย่างง่ายดาย กรณีที่เล่นน้ำในสระว่ายน้ำร่วมกับผู้อื่น ควรอาบน้ำหรือล้างตัวให้สะอาดก่อนลงสระ...

วิธีหาแฟนจากแอปหาคู่ยังไงไม่ให้นก! พร้อมบอกข้อดีข้อเสียและวิธีป้องกันมิจฉาชีพแอพหาคู่

วิธีหาแฟนจากแอปหาคู่ยังไงไม่ให้นก! พร้อมบอกข้อดีข้อเสียและวิธีป้องกันมิจฉาชีพแอพหาคู่

วิธีเล่นแอพหาคู่ให้ได้แฟน / วิธีเล่นแอพหาคู่ให้ได้แฟน / ข้อควรระวังและวิธีป้องกันตนเองจากการใช้แอปหาคู่ เบื่อแล้วเป็น นก อยากเป็น ที่รักของเธอมากกว่า ฮิ้วววว! โหลดแอพหาคู่จนโทรศัพท์เมมเต็ม ปัดหน้าจอจนถลอก ก็ยังไม่เลิกนกสักที วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีไล่นก ด้วยวิธีหาแฟนในแอพหาคู่จริงจังอย่างไรให้ได้ผล ก็ในเมื่อมีแอพหาคู่ฟรีให้เล่นทั้งที ต้องมีความรักดี ๆ ที่คู่ควรกับเราบ้างสิ จริงไหม  วิธีเล่นแอพหาคู่ให้ได้แฟน รูปโปรไฟล์ต้องเริ่ด อินเนอร์ต้องมา  สิ่งแรกที่คนจะเลือกฝ่ายตรงข้ามในแอปหาคู่ คือ รูปภาพโปรไฟล์ ดังนั้นเราต้องเลือกรูปที่เป็นตัวแทนเราให้ดีที่สุด ดีที่สุด เริ่ดที่สุด ในหลายแง่มุม รูปเราเดี่ยว ๆ ที่เสื้อผ้าหน้าผมพร้อมสุด รูปกับสัตว์เลี้ยงสุดรัก รูปกับกลุ่มแก๊ง เพื่อให้ได้เห็นหลายแง่มุมและความเป็นตัวตนของเราผ่านรูป ทำให้น่าสนใจมากกว่าเพียงแค่รูปเซลฟี่ถ่ายเดี่ยวเหงา ๆ อีกนะ  แคปชั่นก็ต้องมีและดีด้วยนะ  มีรูปเจ๋ง ๆ แล้ว ก็ต้องมีแคปชั่นเก๋ ๆ ส่งเสริมแรงดึงดูดให้ฝ่ายตรงข้ามสะดุด อ่านแล้วอยากรู้จักเราต่อสิ ส่วนการเขียนแคปชั่นควรแสดงถึงความเป็นตัวเรามากที่สุด แต่อย่ายืดยื้อ ร่ายยาวแทบจะหมดหน้ากระดาษ A4 แอพหาคู่นะจ๊ะ ไม่ใช่เขียนเรียงความส่งครู ฮา! อยากได้แฟน ต้องกล้า มัวแต่อาย อด นะจ๊ะ หลายคู่ที่แมทช์กัน แต่สุดท้ายก็เฟล เพราะต่างก็เงียบ อาจหยั่งเชิง หรือกล้าปัดแต่ไม่กล้าเริ่มก่อน โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่มักจะรอให้ฝ่ายชายทักก่อน เพราะคิดว่าเป็นผู้หญิงทักก่อนมันดูไม่งาม แต่แหมมม ยุคนี้สมัยนี้แล้ว มัวแต่เหนียม ก็เตรียมคานปูรอได้เลยสิคะ เพราะชะนียุคใหม่ต้องกล้า อย่าได้เป็นโรคกลัวความรักและมีผลสำรวจอย่างจริงจังออกมาแล้วว่า ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ได้มองผู้หญิงทักก่อนว่าไม่ดีนะ แต่ชอบเสียด้วยซ้ำ เพราะแม้จะเป็นชายแต่ไม่ได้หมายความว่าจะกล้าไปทุกเรื่อง ดังนั้น สาว ๆ จ๋า ทักก่อนเพื่ออ่อย แล้วปล่อยให้ผู้สานต่อ  Q & A หาเรื่องคุย ถาม – ตอบ ได้ต่อยาว ๆ  ได้แมทช์กันทั้งที จะปล่อยเงียบจนเลิกคุยกันไปเอง ไม่ด้ายยย! มันต้องงัดกลยุทธ์ ร้อยชั้นเชิงมาใช้ หยอดมุกกันหน่อย ถามสิ่งที่อีกฝ่ายสนใจให้ได้ตอบ แต่ควรเลี่ยงพูดอยู่ฝ่ายเดียว เป็นฝ่ายถามหรือตอบฝ่ายเดียวก็ไม่โอนาา ต้องผลัดกันรุกผลัดกันรับ...

7 ผลไม้วิตามินสูง เสริมภูมิคุ้มกัน แถมสุขภาพผิวดี

7 ผลไม้วิตามินสูง เสริมภูมิคุ้มกัน แถมสุขภาพผิวดี

ผลไม้มีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยให้เซลล์ในร่างกายแข็งแรง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยบำรุงผิวให้สวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ ผลไม้นอกจากจะทานได้อร่อย ยังสามารถนำมาใช้เป็นครีม หรือมาส์กดูแลผิวหน้าและผิวกายได้ดี เรียกได้ว่ามีประโยชน์ครบด้านจริง ๆ วันนี้เรามีผลไม้อะไรมาแนะนำบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ  1. อโวคาโด  อโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดการอักเสบ เร่งสมานแผลให้กับผิว มีไฟเบอร์ วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินอี วิตามินเค ไนอาซิน โฟเลต และกรดแพนโททินิก ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ป้องกันความเสียหายของดีเอ็นเอ นอกจากนี้อโวคาโดยังอุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีนที่ปกป้องผิวจากรังสียูวี  2. กีวี  กีวี่มีวิตามินซีสูง ช่วยลดความหมองคล้ำให้กับผิว ปรับสีผิวให้กระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ใครที่มีสีผิวคล้ำเสีย หรือมีรอยคล้ำใต้ตา การเลือกทานกีวี่ก็นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดี รอยคล้ำหาย ผิวใสสวย และยังเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ดี  3. แอปเปิ้ล  แอปเปิลเป็นผลไม้อุดมด้วยวิตามินซี ใยอาหาร โพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียม ช่วยต้านและขจัดอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะเปลือกแอปเปิ้ลที่จะมีแร่ธาตุมากเป็นพิเศษ  4. สตรอเบอร์รี่  ใครที่มักเป็นสิวง่าย ลองเลือกทานสตรอเบอร์รี่ ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีและกรดซาลิไซลิกสูง ช่วยลดสิวได้ดี มักจะมีการนำกรดซาลิไซลิกใช้ในครีมรักษาสิว เพราะมีคุณสมบัติในการแทรกซึมเข้ารูขุมขนและทำความสะอาดผิวได้ดี และสตรอเบอร์รี่มีกรดเอลลาจิก ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ป้องกันไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลาย จึงช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกัน  5. เชอร์รี่  เชอร์รี่ ผลไม้วิตามินซีสูงเช่นเดียวกัน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และยังมีวิตามินเค วิตามืนเอ โฟเลต และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยซ่อมแซม ปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ทำให้ผิวแลดูใสกระจ่าง  6. แอปริคอท  แอปปริคอตมากไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค โฟเลต และใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ได้ดี ช่วยให้สุขภาพการขับถ่ายดีขึ้น ลดรอยผิวหมองคล้ำ ช่วยป้องกันเซลล์บุผนังหลอดเลือดตาย 7. พีช  พีช ผลไม้รสละมุน...

โรคกลัวความรัก (Philophobia) เป็นโรคอันตรายหรือแค่ความกลัวชนิดหนึ่ง

โรคกลัวความรัก (Philophobia) เป็นโรคอันตรายหรือแค่ความกลัวชนิดหนึ่ง

ทำไมถึงไม่มีแฟน? ไม่อยากมีแฟนเหรอ? หลายคนที่อาจเคยคำถามนี้ แม้ว่าบางคนอาจไม่ต้องการมีแฟนจริง ๆ แต่บางคนไม่มีแฟนเพราะเป็น “โรคกลัวความรัก” ที่หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือพูดกันติดปาก แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้วโรคนี้คือโรคอะไร มีอาการแบบไหน เป็นโรคร้ายแรงแค่ไหน และจะรักษาได้ไหม เรามาทำความรู้จักโรคกลัวความรักกันในบทความนี้กันเลย  โรคกลัวความรัก คืออะไร  โรคกลัวความรัก  Philophobia คือ โรคชนิดหนึ่งทางจิตเวช หรือเรียกว่า ภาวะทางจิตประเภทหนึ่งในโรคกลัวแบบเฉพาะ (Phobia) ซึ่งไม่ถือว่าเป็นโรคร้ายแรงในทางการแพทย์ แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อาจกลายเป็นคนเก็บตัว จนอาจไม่กล้าออกไปพบเจอผู้คน หลีกเลี่ยงต่อการเข้าสังคม อยู่แต่กับตนเองและอาจเกิดความเครียดหรือกลายเป็นโรคกลัวการเข้าสังคม โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า และอาจนำไปสู่การใช้สารเสพติด หรือฆ่าตัวตายได้ในที่สุด  แม้ว่าในทางการแพทย์ การหวาดกลัวที่จะมีรักไม่ได้ถือว่าเป็นโรค แต่ที่เรียกว่า โรคกลัวความรัก หรือ โรคกลัวการมีแฟน มาจากการเรียกติดปากของคนทั่วไป ซึ่งคำว่า “Philophobia” เป็นคำภาษากรีก โดยคำว่า “Philos” หมายถึง ความรัก และ “Phobos” หมายถึง ความกลัว  Philophobia อาการกลัวการตกหลุมรัก กลัวในการพัฒนาความสัมพันธ์ วิตกกังวลว่าจะไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ได้ ทำให้ไม่ต้องการมีความรัก ซึ่งอาการเหล่านั้นจะเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เช่นเดียวกับความกลัวในรูปแบบอื่น ๆ เช่น กลัวการอยู่ในที่สาธารณะ (Agoraphobia) กลัวแมงมุม (Arachnophobia) กลัวความสูง (Acrophobia) หรือ โรคกลัวความเจ็บปวด เป็นต้น  สาเหตุของโรคเกี่ยวกับความรัก  โรคกลัวความรักเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น  มีอดีตที่ไม่ดีฝังใจ เช่น เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำ หย่าร้าง หรือมีคนรอบข้างผิดหวังกับความรักเปเป็นประจำ  มีความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวมาก่อน เช่น ถูกหักอก ถูกนอกใจ ฯลฯ ทำให้ไม่อยากข้องเกี่ยวกับความรักอีก วัฒนธรรม ประเพณี และศาสนา ผู้ที่หวาดกลัวในความรักบางคนอาจมีสาเหตุมาจากความเข้มงวดหรือข้อห้ามทางวัฒนธรรม ประเพณี หรือศาสนา เช่น ข้อห้ามในการแสดงความรักฉันท์ชู้สาว การบังคับการแต่งงานตั้งแต่ยังเด็ก เป็นต้น  กลัวการถูกปฏิเสธ หรือคิดว่าตนไม่มีค่าพอ...

รู้หรือไม่ สุขภาพ “เล็บ” บ่งบอกสุขภาพ “คุณ”

รู้หรือไม่ สุขภาพ “เล็บ” บ่งบอกสุขภาพ “คุณ”

แม้เล็บของเราดูจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่นอกจากจะได้ในเรื่องของความสวยงาม แต่เอาจริงๆ เราไม่ค่อยตระหนักว่าเล็บเราสำคัญแค่ไหน นอกจากจะทำให้ปลายนิ้วมีความแข็งแรงมากขึ้นเหมือนเป็นอุปกรณ์ดามอย่างหนึ่ง เล็บยังสามารถบ่งบอกสุขภาพของเราได้อีกด้วย

วิธีเลือกซื้อผ้าปูที่นอนให้นอนสบายเหมือนอยู่โรงแรม

วิธีเลือกซื้อผ้าปูที่นอนให้นอนสบายเหมือนอยู่โรงแรม

แม้ว่าโรงแรมบางแห่งจะมีจำหน่ายชุดเครื่องใช้โรงแรมให้กับลูกค้า แต่สิ่งสำคัญกว่าก็คือทำความสะอาดและการดูแลรักษาอย่างไรให้น่าใช้งานอยู่เสมอ